น้ำจากแก่งละว้า และลำน้ำชีเอ่อเข้าท่วมหลายพื้นที่ในอำเภอบ้านแฮด ทำให้ถนนหลายสายไม่สามารถสัญจรไปมาได้ นอกจากนี้ พื้นที่การเกษตรได้ถูกน้ำเอ่อเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้าง

น้ำจากแก่งละว้า และลำน้ำชีเอ่อเข้าท่วมหลายพื้นที่ในอำเภอบ้านแฮด ทำให้ถนนหลายสายไม่สามารถสัญจรไปมาได้ นอกจากนี้ พื้นที่การเกษตรได้ถูกน้ำเอ่อเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้าง

นายชาติชาย ขำชื่น นายอำเภอบ้านแฮด พร้อมด้วย นายกิติพันธ์ จันทร์สุข ป.หน.กลุ่มงานบริหารงานปกครอง และนายมาโนช พิลาโท นายกเทศมนตรีตำบลโคกสำราญ พนักงานเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลโนนสมบูรณ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลโคกสำราญ บ้านแฮด และโนนสมบูรณ์ ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลโคกสำราญ บ้านแฮด และโนนสมบูรณ์ ซึ่งสถานการณ์น้ำในพื้นที่ น้ำจากแก่งละว้า และลำน้ำชีได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่ได้รับความเสียหาย
ถนนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ จำนวน 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 13 หมู่ที่ 7 หมู่ที่ 9 และหมู่ที่ 10 ตำบลโคกสำราญ พื้นที่การเกษตรถูกน้ำเอ่อเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้าง จำนวน 14 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 1,2,4,5,7,8,9,10,11,14 และ หมู่ที่ 16 ตำบลบ้านแฮด หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 9 และตำบลโนนสมบูรณ์ หมู่ที่ 5
วัดถูกน้ำเข้าท่วมจำนวน 1 แห่ง โรงเรียน จำนวน 4 แห่ง ซึ่งการดำเนินการอำเภอบ้านแฮด ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ขนย้ายสัตว์เลี้ยง และทรัพย์สินขึ้นไปยังพื้นที่สูง และนำเรือท้องแบนคอยบริการรับส่งราษฎรในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน และในวันนี้ได้มีหน่วยงานและกลุ่มองค์กรมาให้ความช่วยเหลือ จำนวน 4 หน่วยงาน ได้แก่ มณฑลทหารบกที่ 23 นำกำลังพลพร้อมรถและเรือท้องแบนมาช่วยขนย้ายสิ่งของ กรมเจ้าท่านำเรือตรวจการ พร้อมเจ็ทสกี มาให้ความช่วยเหลือ จำนวน 1 ลำ สำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัดขอนแก่น ส่งมอบเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 2 ลำ และบริษัทในเครืองเทพประทานพรจำกัด
ส่งมอบข้าวกล่อง จำนวน 200 กล่อง พร้อมน้ำดื่มมามอบให้ผู้ประสบอุทกภัย 4 หมู่บ้าน

 

ปชส.ขอนแก่น

เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 15 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 15 ล้าน ลบ.ม. และจะเพิ่มการระบายน้ำทุกวันจนกว่าจะถึงวันละ 35 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากยังมีน้ำที่จะไหลเข้าเขื่อนอีกจำนวนมาก

นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำที่จะไหลเข้ามาในพื้นที่ 2 ทาง คือแม่น้ำชีที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิ และลำน้ำพรม-เชิญ ที่มาจากเขื่อนจุฬาภรณ์จังหวัดชัยภูมิ รวมทั้งน้ำจากบางพื้นที่ของจังหวัดเลย และจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อวางแผนบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะเขื่อนอุบลรัตน์ ที่มีน้ำไหลเข้าวันละกว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ขณะนี้มีน้ำกักเก็บอยู่ที่ 1,797 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 73.93 ของความจุอ่าง สามารถรับน้ำได้อีก 634 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงต้องเพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังมีน้ำเหนือที่จะไหลเข้าเขื่อนอีกเป็นจำนวนมาก ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้เขื่อนอุบลรัตน์ระบายน้ำเพิ่มได้สูงสุดที่วันละ 35 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่จะต้องเพิ่มการระบายน้ำเฉลี่ยวันละไม่เกิน 3 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อไม่ให้ลำน้ำพองเอ่อล้นตลิ่ง รวมทั้งพนังกั้นน้ำได้รับความเสียหาย ซึ่งจะทำให้ประชาชนและพื้นที่การเกษตรทั้งสองฝั่งลำน้ำพอง ถูกน้ำเอ่อท่วมเป็นบริเวณกว้างเหมือนในปี 2560 ที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ก็ยังคงขยายวงกว้าง น้ำในแม่น้ำชีที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิ เอ่อท่วมพื้นที่อำเภอแว้งน้อย, แวงใหญ่ และเริ่มมาถึงพื้นที่อำเภอชนบท ขณะที่น้ำจากลำน้ำพรม-เชิญ ซึ่งเอ่อท่วมอำเภอภูผาม่าน, ชุมแพ,หนองเหลือ และอำเภอภูเวียง ก็จะไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์

สวท.ขอนแก่น

น้ำชีทะลักท่วมหมู่บ้านพื้นที่การเกษตรในอำเภอแวงน้อย จ.ขอนแก่น เสียหายกว่า 5,000 ไร่

น้ำชีทะลักท่วมหมู่บ้านพื้นที่การเกษตรในอำเภอแวงน้อย จ.ขอนแก่น เสียหาย 5,000ไร่ ส่วนถนนเชื่อมไป อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ถูกน้ำท่วมสูงรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ต้องใช้ทางเลี่ยงไกลออกไปอีก 20 กม. พร้อมแจ้งเตือนขอนแก่นเตรียมรับมวลน้ำจากชัยภูมิ

นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.อ.อ.ทวี บุญช่วย นายอำเภอแวงน้อย และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงเรือท้องแบนเพื่อเข้าสำรวจบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร ใน ต.ท่านางแนว และ ต.ละหานนา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ที่ถูกน้ำชีจากจังหวัดชัยภูมิเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 5,000 ไร่ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางอำเภอได้มีการแจ้งเตือนประชาชนไว้ล่วงหน้า 1 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านขนของขึ้นที่สูง ได้รับความเสียหายบางส่วน ส่วนบ้านที่อยู่ในที่ลุ่มใกล้ลำน้ำชี น้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร บ้านบางหลังจมน้ำเกือบมิดหลังคา และถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร โดยทางอำเภอได้แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมมือรับน้ำจากแม่น้ำชีที่จะเพิ่มสูงขึ้นวันละ 20 เซนติเมตร
พ.อ.อ.ทวี บุญช่วย นายอำเภอแวงน้อย กล่าวว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบบ้านเรือนประชาชน 2 หมู่บ้าน กว่า 100 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรที่อยู่ติดแม่น้ำชีได้รับความเสียหาย เบื้องต้นประมาณ 5,000 ไร่ ซึ่งคาดว่าน้ำที่จังหวัดชัยภูมิกำลังมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยถนนที่เชื่อมไปจังหวัดชัยภูมิผ่านตำบลท่านางแนว ตั้งแต่เมื่อวานมีน้ำไหลผ่าน ถูกปิดการจราจรทั้งหมดแล้ว ส่วนใครที่จะเดินทางไปจังหวัดชัยภูมิจาก อ.แวงน้อย ให้ใช้เส้นทางด้านข้างที่ว่าการอำเภอแวงน้อย ออกไปทาง อบต. ท่าวัดและไปจังหวัดชัยภูมิอีกฟากหนึ่งซึ่งมีระยะทางเพิ่มขึ้นอีก 20 กิโลเมตร
ส่วนแนวทางการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ปภ.เข้าไปดูแลเรื่องอาหารและน้ำดื่มประชาชนที่ติดเกาะ ประมาณ 3 หลังคาเรือน ที่ยังไม่ยอมออกจากบ้าน พร้อมกับมีฟาร์มหมูซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงหมูออกมาประมาณ 100 ตัว ออกมาโดยปลอดภัยแล้ว
พร้อมกันนี้ได้แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมวลน้ำจาก จ.ชัยภูมิ ไหลเข้ามา จ.ขอนแก่น 2 เส้นทาง เส้นทางแรก คือ อ.ชุมแพ อ.หนองเรือ อ. ภูเวียง ส่วนเส้นทางที่ 2 คือ อ.แวงน้อย อ.แวงใหญ่ อ.โคกโพธิ์ไชย อ.มัญจาคีรี และ อ.ชนบท เพื่อให้ประชาชนเตรียมรับโดยที่ลุ่มให้ขนของขึ้นที่สูง คาดว่าน้ำที่จะเพิ่มสูงและท่วมหนักเท่ากับปี 2554

คนพันธุ์แชร์ สวท.ขอนแก่น

อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น น้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ทำให้กุดเค้า แก้มลิงน้ำเต็มความจุ น้ำไหลท่วมบ้านเรือน พื้นที่ทางการเกษตร และถนนสายหลัก

อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น น้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ทำให้กุดเค้า แก้มลิงน้ำเต็มความจุ น้ำไหลท่วมบ้านเรือน พื้นที่ทางการเกษตร และถนนสายหลัก
เจ้าหน้าที่แขวงการทางอำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ได้นำป้ายมาปิดกั้นถนนบริเวณสามแยก มัญจาคีรี-โคกโพธิ์ไชย หลังจากน้ำได้ไหลเข้าท่วมถนน จนทำให้รถทุกชนิด สัญจรผ่านไปด้วยความลำบาก เนื่องจากมีระดับน้ำสูง 30-70 เซนติเมตร ตำรวจ สภ.มัญจาคีรี ต้องออกมาอำนวยความสะดวกจราจร
ขณะที่ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสภ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 มอบหมายให้ พ.ต.อ.ธนาวัตร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับตำรวจจิตอาสา นำถุงยังชีพมามอบให้กับชาวบ้านภายในซอยหน้าเมือง 10 หรือชุมชนสหพัฒนา ม.14 ตำบลกุดเค้า. อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น หลังน้ำยังคงท่วมขังบนถนน สูงประมาณ 1 เมตร ประชาชนในซอย ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 13 หลัง ไม่สามารถออกจากบ้านไม่ได้ พร้อมมอบถุงยังชีพจำนวน 30 ถุง ให้กับข้าราชการตำรวจ หลังจากน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านพักจำนวน 30 นาย
พ.ต.อ.ธนาวัตร ดีบุญมี ณ ชุมแพ โฆษกตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ. 4 มอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 50,000 บาท แก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมห้องแถวบ้านพักตำรวจ สภ.มัญจาคีรี จำนวน 30 ครอบครัว และได้จัดทำข้าวกล่อง วันละ 100 กล่อง เพื่อนำไปมอบให้แก่ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนเป็นการช่วยเหลือจากใจตำรวจภูธรภาค 4 ด้วย และ พล.ต.ต.พุทธิพงศ์ มุสิกูลผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น มอบหมายให้ พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น นำตำรวจจิตอาสา เดินทางไปเยี่ยมบำรุงขวัญและ มอบถุงยังชีพจาก ภ.4 ภ.จว.ขอนแก่น และ สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น แก่ตำรวจผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 30 นาย
และนำตำรวจจิตอาสา Local CAT เดินทางไปมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน จากน้ำท่วมขังในเขตพื้นที่เทศบาลมัญจาคีรี พร้อมทั้งให้ตำรวจได้อำนวยความสะดวกการจราจร พร้อมกับทำป้ายแสดงเส้นทางเลี่ยงจุดน้ำท่วม เพื่อบริการประชาชนที่สัญจรผ่านอำเภอมัญจาคีรี
นายณัฐภัทร พลอยสุภา นายอำเภอมัญจาคีรี จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่อำเภอมัญจาคีรี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้วในพื้นที่ 3 ตำบล ประกอบด้วย กุดเค้า สวนหม่อน และตำบลนาข่า โดยเฉพาะตำบลกุดเค้าและตำบลสวนหม่อน ได้รับผลกระทบหนักสุด มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 100 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรจำนวนมากถูกน้ำท่วม เนื่องจากอำเภอมัญจาคีรีอยู่ติดกับแม่น้ำชี ประกอบกับอิทธิพลจากพายุ เตี๋ยนหมู่ ทำให้ลำห้วยต่างๆมีปริมาณน้ำมาก ได้ล้นตลิ่งก่อนไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร.

อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เจอวิกฤติน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี เร่งอพยพประชาชนไว้ในพื้นที่ที่ปลอดภัย

อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เจอวิกฤติน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี เร่งอพยพประชาชนไว้ในพื้นที่ที่ปลอดภัย
ระดับน้ำในเขตเทศบาล ต.มัญจาคีรี อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ยังคงท่วมขังพื้นที่ในเขตเมืองอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงค่ำของเมื่อวานที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ซ.10 ถ.หน้าเมือง เขต ทต.มัญจาคีรี ระดับน้ำท่วมกว่า 1 เมตร เลยระดับเอวมาตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย และทหาร รวมไปถึง เจ้าหน้าที่ อส.ได้เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ และนำมาไว้ในจุดที่ปลอดภัย ขณะที่บริเวณที่ว่าการอำเภอมัญจาคีรี ยังคงมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 50 ซม.การให้บริการประชาชนในด้านต่างๆ ยังคงไม่สามารถที่จะให้บริการได้
นายมงคล สุขเจริญ ชาว อ.มัญจาคีรี กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วม อ.มัญจาคีรี นั้นครั้งนี้หนักที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ที่ผ่านมาเคยมีน้ำท่วมบ้างแต่ไม่หนักและขยายวงกว้างขนาดนี้ ซึ่งน้ำที่ไหลท่วมนั้นไหลลงมาจากเทือกเขาภูเม็ง ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากพายุ ที่พาดผ่านพื้นที่ขอนแก่น 2 ลูกตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมวลน้ำได้ไหลท่วมพื้นที่เขตเทศบาลอย่างรวดเร็ว เพิ่มระดับความสูงและขยายวงกว้างครอบคลุมทั้งเขตพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชนเมืองในภาพรวม ซึ่งน้ำที่ไหลลงมาท่วมขณะนี้นั้นจะไหลลงบึงกุดเค้า และไหลลงสู่แม่น้ำชี ตามลำดับ
” เทศบาลฯ ได้กำหนดพื้นที่ที่ปลอดภัยไว้ที่วัดโพธิ์กลาง ในการอพยพประชาชนทีได้รับผลกระทบมาพักในจุดดังกล่าวซึ่งตลอดทั้งคืนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ทำการอพยพกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง และประชาชนที่บ้านถูกน้ำท่วมได้มาพักค้างคืนที่จุดดังกล่าวจนกว่าสถานการณ์น้ำจะลดระดับลง ขณะที่จากการวัดระดับน้ำล่าสุดเช้านี้ในเขตเทศบาลระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 5 ซม.หรือระดับหัวเข่า ขณะที่ฝั่งแม่น้ำชี ระดับน้ำจะแตะระดับถึงตลิ่งอีกประมาณ 30 ซม.”
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่ง อ.มัญจาคีรี ได้รับผลกระทบน้ำท่วมจากน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาภูเม็งที่ไหลมาตามทางระบายน้ำและไหลเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ คู่ขนานกับการระบายน้ำจากเขตชุมชน ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ผันน้ำลงสู่บึงกุดเค้าและลงสู่แม่น้ำชีตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตามคาดว่ามวลน้ำจากแม่น้ำชี ตามแผนการระบายน้ำของชลประทานคาดว่าจะเข้าเขตขอนแก่น ในอีกประมาณ 3 วันต่อจากนี้ ซึ่งการเตรียมการรับมือในภาพรวมของจังหวัดนั้นพร้อมทั้งหมดแล้ว

น้ำท่วมถนน อ.ชุมแพ

อำเภอชุมแพ จ.ขอนแก่น ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมรับมือมวลน้ำที่คาดว่าจะไหลมาเพิ่มอีก
ที่ ถนนมะลิวัลย์ ชุมแพ-หนองเรือ บ.พรสวรรค์ ต.หนองไผ่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงอำเภอชุมแพ ต้องนำป้ายมาปักเตือนพร้อมกับปิดช่องจราจรเลนซ้าย ให้รถทุกชนิดวิ่งเลนขวาเท่านั้น หลังจากน้ำจากภูเขาภูเวียงได้ไหลบ่าลงมาท่วมพื้นที่ทางการเกษตร และท่วมถนนเป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร ทำให้ผู้ที่สัญจรผ่านบริเวณดังกล่าว ต้องใช้ความระมัดระวังจากน้ำที่ท่วมผิดจราจรสูงประมาณ 10-30 ซม. ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งระบายน้ำ ซึ่งสาเหตุเกิดจากไม่มีท่อระบายน้ำ ทำให้น้ำที่ไหลบ่ามาไม่สามารถไหลข้ามถนนมะลิวัลย์ได้
ขณะที่พื้นที่ทางการเกษตร บ.ท่าเดื่อ ต.ไชยสอ น้ำจากลำน้ำเชิญได้ล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมนาข้าว บ่อปลา แปลงผักของชาวบ้าน ไร่อ้อย ได้รับความเสียหายแล้วกว่า 1 หมื่นไร่ รวมทั้งบ้านเรือนประชาชน
นางสุภาวดี ศรีสุขวัฒน์ นายอำเภอชุมแพ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมที่อำเภอชุมแพ ในพื้นที่ลุ่มลำน้ำเชิญกำลังได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำล้นตลิ่ง หลังจากที่มีฝนตกหนักจากอิทธิพายุ เตี๋ยนหมู่ น้ำป่าจากอำเภอภูผาม่าน และการระบายน้ำจากเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ ทำให้น้ำไหลลงสู่ลำน้ำเชิญ ก่อนที่จะไหลผ่านอำเภอชุมแพทำให้มีน้ำท่วมในพื้นที่ริมตลิ่งแล้ว โดยทางอำเภอ ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใหญ่บ้านประชาชนสัมพันธ์ ให้ชาวบ้านที่สู่ริมตลิ่งลำน้ำเชิญ ได้อพยพนำสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูงรวมทั้งสัตว์เลี้ยงเพื่อให้ปลอดภัยจากน้ำท่วม พร้อมประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งได้มีการประเมินสถานการณ์แล้วคาดว่าน้ำท่วมจะกินพื้นที่ไม่มาก พร้อมกับเตือนผู้ปกครอง ได้ดูแลบุตรหลานที่ออกมาเล่นน้ำในช่วง ให้คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะน้ำหลายจุดมีกระแสน้ำที่ไหลแรง.

สวท.ขอนแก่น

ปภ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตามสถานการณ์น้ำ ในพื้นที่อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น

 

ปภ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตามสถานการณ์น้ำ ในพื้นที่อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น

 

*** วันนี้ (25 ก.ย. 64) นายสมพงษ์ เข็มเหล็กหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสารภัยจังหวัดขอนแก่น มอบหมายให้นายศุภกิจ อยู่ร่มพฤกษ์ ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตามสถานการณ์น้ำ ในพื้นที่อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น

 

*** ในการนี้ได้นำถุงยังชีพ ในนามของ ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นมอบ ให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านมูลตุ่น หมู่ที่ 2 ตำบลสวนหม่อน อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น จำนวน 20 หลังคาเรือน จากการตรวจสอบพบว่าเป็นพื้นที่รับน้ำจากห้วยคำแคน ไหลลงอ่างเก็บน้ำกุดเค้าซึ่งเป็นแหล่งรองรับน้ำขนาดใหญ่ของอำเภอมัญจาคีรี เพื่อรองรับปริมาณน้ำจำนวนมากที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิต่อไป

 

#PRKHONKAEN

ขอนแก่นเริ่มโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน ย้ายสายไฟลงใต้ดิน

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค Kick Off โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน 1 จังหวัด 1 ถนนเฉลิมพระเกียรติ พัฒนาระบบการจ่ายไฟฟ้าให้เพียงพอต่อการขยายตัวของภาคเอกชนและธุรกิจ
ที่ ลานน้ำพุบึงแก่นนคร จังหวัดขอนแก่นนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิด Kick Off โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน 1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ประจำปี 2564 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกำหนด เส้นทางสี่แยกโรงเรียนสวนสนุก ถนนนิกรสำราญ ถึงเส้นทางแยกถนนโพธิสาร ริมบึงแก่นนคร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ระยะทาง 832 เมตร โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใช้งบประมาณประมาณ 34.5 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 300 วัน เพื่อพัฒนาระบบการจ่ายไฟฟ้าให้สามารถรองรับตามความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นให้เพียงพอกับความต้องการต่อการขยายตัวของภาคเอกชน และภาคธุรกิจ

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การดำเนินโครงการ 1 จังหวัด 1 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ที่นำสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลลงใต้ดินด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง โดยการขุดเจาะแบบไม่ต้องเปิดผิวจราจร ถือเป็นโครงการที่จะทำให้เขตเทศบาลนครขอนแก่น และจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นเมือง Smart City มีความทันสมัย และมีการพัฒนาในทุกด้าน ซึ่งจะทำให้ภูมิทัศน์ในบึงแก่นนครมีความงดงามยิ่งขึ้น และเป็นการเตรียมพื้นที่ ซึ่งทางจังหวัดขอนแก่นโดยเทศบาลนครขอนแก่นนั้น ได้มีการวางแผนที่จัดทำแทรมน้อย (รถไฟฟ้ารางเบา) บริเวณบึงแก่นนคร ซึ่งเมื่อเสร็จทั้งโครงการแล้ว จะมีการสร้างรถไฟรางเบารอบบึงแก่นนครระยะทาง 4 กิโลเมตร ก็จะทำให้ภูมิทัศน์รอบบึงแก่นนครมีความสวยงาม และสร้างความภาคภูมิใจให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งบึงแก่นนครนั้นถือเป็นหัวใจหลักของภูมิทัศน์ในพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น และเป็นพื้นที่ที่เป็นที่อยู่อาศัยชุมชนหนาแน่นในเขตเมือง

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ยังกล่าวอีกว่า ในการพิจารณาพื้นที่ดำเนินโครงการ ได้มีคณะกรรมการพิจารณาร่วมกันในระดับจังหวัด และพิจารณาในเขตชุมชนหนาแน่นที่อาจจะมีความเสี่ยงต่อการที่สายไฟฟ้าจะเป็นอันตรายต่อประชาชน และปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สนับสนุนนำสายไฟฟ้าและเคเบิ้ลลงใต้ดินทั้งสิ้น 11 สาย (ในเขตเทศบาล 10 สาย และในเขตเทศบาลชุมแพ 1 สาย) ซึ่งในระยะต่อไปที่จะดำเนินการคือบริเวณศาลากลางจังหวัด ซึ่งจะนำมาบรรจุเข้าสู่แผนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต่อไป

ด้านนายวิจารณ์ คลังบุญครอง ผู้ช่วยผู้ว่าการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต1 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้พิจารณาดำเนินโครงการ 74 จังหวัด จังหวัดละประมาณ 1 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 4,300 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินโครงการที่จังหวัดขอนแก่น ถือเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญ และเป็นจังหวัดชั้นนำของประเทศไทย ดังนั้นการปรับปรุงระบบไฟฟ้าใต้ดิน แสดงถึงความทันสมัยและทัศนียภาพที่สวยงาม ส่งเสริมการท่องเที่ยว และเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดินที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ คือการพัฒนาระบบไฟฟ้าเมืองใหญ่ระยะที่ 2 จะดำเนินการในบริเวณถนนหน้าเมือง กลางเมือง และหลังเมือง ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควร และจะมีการประชาสัมพันธ์อีกครั้ง

สวท.ขอนแก่น

สสจ. ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

วันที่ 6 กันยายน 2564 เวลา 9.30น.นายแพทย​์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา​ นายแ​พทย์สาธารณ​สุขจังหวัด​ขอนแก่น​ ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 138/2564 ทางไกลผ่นระบบWebex meeting ณ​ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น มีข้อประสานราชการและสั่งการดังนี้
1. การเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย 608
1.1ทำแผนเชิงรุกรายสัปดาห์ ฉีดวัคซีนในชุมชนเน้นกลุ่มเป้าหมาย 608 เป้าหมายเดือนกันยายน 2564 ร้อยละ 70 โดยส่งแผน
การฉีดวัคซีนที่กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น
1.2.การลงข้อมูลการฉีดใน MOPH IC ให้เป็นปัจจุบัน (Real Time)
ในเวลา 16.00 น. ของทุกวัน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะตัดยอด
ในเวลา 19.00 น. ของทุกวัน
1.3.ในวันที่ 24 กันยายน 2564 เป็นวันมหิดล ขอให้ทุกพื้นที่ในจังหวัดขอนแก่นดำเนินการฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 ให้ได้ตามเป้าหมาย
ร้อยละ 70 เพื่อปักธงพื้นที่สีเขียวในภาพรวมจังหวัดขอนแก่น
2. เร่งรัดการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัย Covid-19
ขอให้ทุกพื้นที่เร่งรัดการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัย Covid-19
กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดให้รีบดำเนินการ ถ้าไม่พอให้ทำการเบิกเพิ่มได้ ขยายเวลาให้เบิกได้ถึงเดือนตุลาคม 2564
3. การเตรียมการฟื้นฟู(Recovery) การเฝ้าระวังในโรงงานที่มีแรงงานต่างด้าวชาวพม่า
3.1.ทำ Surveillance ในโรงงาน เน้นจุดเสี่ยงที่เข้าข่ายจะเกิด
Cluster มอบกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ
3.2. ถ้าตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ทำมาตรการ Bubble and Seal เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19
4. ATK จังหวัดขอนแก่นได้รับการจัดสรรชุดตรวจ ATK จากกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 84,000 ชุด มอบกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคฯ
วางแผนจัดสรรสนับสนุนหน่วยบริการ

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น

ขอนแก่น พร้อมเปิดเรียนเทอม 2 กำชับสถาบันการศึกษาวางระบบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

จ.ขอนแก่น พร้อมเปิดเรียนเทอม 2 กำชับสถาบันการศึกษาวางระบบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ย้ำชัดเมืองต้องเดินหน้าทั้งด้านเศรษฐกิจและสาธารณสุข ไปด้วยกัน
ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น,นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น,นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น และ นพ.ไพบูลย์ ปิยะบัณฑิลกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น ราม ประชุมร่วมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น ครั้งที่ 33 เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม


นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือว่าด้วยการผ่อนคลายตามมาตรการที่ ศบค.และรัฐบาลได้กำหนดรอบแนวทาง ไว้หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลง ทำให้การประชุมวันนี้เป็นการเตรียมการที่จะผ่อนคลายในมาตรการและข้อห้ามต่างๆตามประกาศเดิมที่จังหวัดกำหนดโดยเฉพาะสถานศึกษาที่มติที่ประชุมมีการพิจารณาทบทวนการเปิดภาคเรียนในภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2564 โดยให้สถาบันการศึกษาทุกแห่งและทุกสังกัด ได้พิจารณการเปิดภาคเรียนแบบนิวนอมอล ตามมาตรการและมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด โดยให้อำนาจของผู้บริหารสถานศึกษาหรือหน่วยงานต้นสังกัดได้พิจารณาการเปิดการเรียนการสอนของสถาบันการศึกษาแต่ละแห่งละแต่ละประเภท ที่ทุกแห่งต้องคุมเข้มความปลอดภัยตามมาตรฐานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
” ขณะเดียวกันที่ประชุม ยังมีมติในการพิจารณาให้มีการจัดการแข่งขันไทยลีก 2 และ ไทยลีก 3 ภายหลังจากที่ช่วงที่ผ่านมาได้มีการอนุญาตให้มีการจัดการแข่งขันไทยลีก 1 ไปแล้ว โดยให้สโมสรฟุตบอลที่จะทำการแข่งขันได้เสนอแผนและรายละเอียดต่างๆตามมาตราการที่กระทรวงสาธารณสุขและสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยกำหนด รวมไปถึงการมอบหมายให้จังหวัดขอนแก่น เร่งจัดการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ที่ยังไม่มีการเลือกตั้งเพื่อให้การทำงานดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการจัดกิจกรรมประเภทต่างๆ และขนาดต่างๆ ที่สามารถจัดการประชุม สัมมนา หรือจัดกิจกรรมต่างๆได้ แต่จะต้องขออนุญาตเป็นกรณีไป โดยให้อำนาจนายอำเภอและคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออำเภอ ทำการพิจารณาภายใต้มาตรการป้องกันโตวิด-19 อย่างเข้มงวด”
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า ด่านตรวจโรคที่ท่าอากาศยานนานาชาติ ขอนแก่น จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคจากสำนักงานควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น ไปประจำที่จุดดังกล่าวเพื่อประสานการทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ของการท่าอากาศยานและสายการบิน ในการคุมเข้มบุคคลเข้า-ออกจังหวัดตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด คู่ขนานกับสถานีขนส่งทุกแห่งที่กำลังเจ้าหน้าที่จะตรวจเข้มการเดินทางอย่างเข้มงวดต่อไป
สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขณะนี้ในกลุ่มพื้นที่ อำเภอขนาดเล็ก พบว่ากลุ่มเป้าหมาย 608 คือกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีอายุ ตั้งแต่ ุ60 ปี ขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค และ กลุ่มสตรีตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ในพื้นที่ อ.เปือยน้อย กลุ่มเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วมากถึงร้อยละ 60 รองลงมาคือที่ อ.เวียงเก่า ขณะที่กลุ่มอำเภอขนาดใหญ่ อันดับ 1 คือ อ.พล ประชากรกลุ่มเป้าหมายได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่าร้อยละ 50 ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย ดังนั้นในระยะเวลาที่เหลือกลุ่มเป้าหมายที่จะต้องได้รับวัคซีนร้อยละ 70 ภายในเดือน ก.ย.นี้ ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนงานที่กำหนด จากนั้นก็จะเข้าสู่แผนงานฉีดวัคซีนให้กับบุคคลทั่วไปตามที่รัฐบาล และ ศบค.กำหนดไว้ทันที